เมทริกซ์ โดยสังเขป

ภาพยนตร์ เดอะเมทริซ์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร/A.I.ปัญญาประดิษฐ์(artificial intelligence) ในโลกอนาคต สร้างสรรค์และกำกับโดยพี่น้องวาชอว์สกี้ (Andy Wachowski และ Larry Wachowski) โดยการร่วมงานสร้างกับวอร์เนอร์สบราเธอร์ส(Warner Bros.) และ Village Roadshow Pictures ออกฉายครั้งแรกในปี 1999

- พี่น้อง Andy Wachowski และ Larry Wachowski -


- พี่น้อง Andy Wachowski และ Larry Wachowski เปลี่ยนจาก brothers เป็น sisters -


:: แรงบันดาลใจ เดอะเมทริกซ์

ภาพยนตร์ชุด The Matrix (โดยเฉพาะภาคการ์ตูนแอนิเมชั่น The Animatrix) ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่า The Matrix ได้รับอิทธิพลจากการ์ตูนญี่ปุ่นมากแค่ไหน แต่ยังแสดงถึงความชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นของตัวพี่น้องผู้กำกับทั้งคู่ด้วย ที่สำคัญโครงเรื่องหลัก หรือ พล็อตของเรื่องเดอะเมทริกซ์ ยังได้แนวทางมาจากการ์ตูนชั้นยอดเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วยนั้นคือเรื่อง "Ghost in the shell"...

...Ghost in the shell เป็นเหตุการณ์ในยุคโลกอนาคตที่มีการเชื่อมโยงเครือข่ายทั่วทั้งโลก ที่สำคัญมนุษย์สามารถเปลงจิตวิญญาณ(หรือคำว่า Ghost นั้นเอง)เป็นดิจิตอลแล้วส่งไปอยู่ในร่างหุ่นยนต์ได้(ร่างหุ่นยนต์ = Shell อันหมายถึงเปลือกนอก) โดยมีคอมพิวเตอร์เป็นตัวควบคุม...อย่างไรก็ตามยุคนั้นก็ยังไม่พ้นปัญหาเดิมๆ อย่างเช่นปัญหาของชนกลุ่มน้อยและความขัดแย้ง(ไม่ต่างจากปัจจุบัน) ในเรื่องมีตัวเอกคือ "เมเจอร์ โมโตโกะ คุซานางิ" (ขอเรียกสั้นๆ ว่าเมเจอร์) เธอเป็นไซบอร์ก มีร่างเป็นหุ่นยนต์(ร่างกายธรรมชาติเดิมสูญสลายไปแล้ว) แต่จิตวิญญาณของเธอยังคงอยู่และถูกแปลงเป็นดิจิตอลแล้ว!) เธอเป็นระดับผู้พันของหน่วยพิเศษที่ 9 อันมีหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยในญี่ปุ่น โดยมีคู่หูร่างใหญ่นาม "บาโตะ" ผู้มีร่างเป็นไซบอร์กเช่นกัน และ "โทงุสะ" ผู้ช่วยอีกคนที่เป็นมนุษย์(แท้ๆ) ความพิเศษของตำรวจหน่วยนี้ก็คือ การเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายที่ถูกเรียกว่า "เน็ต" ได้โดยตรง สามารถดักฟังการสนทนาของผู้ต้องสงสัยเพื่อสืบข้อมูล...

... นอกจากนี้ผู้กำกับ Wachowski ยังยอมรับด้วยว่าฉากที่ Neo พบกับเด็กผู้มีพรสวรรค์ในอพาร์ตเม้นต์ของเทพพยากรณ์นั้นได้ไอเดียมาจากฉากจบ ของหนังสือการ์ตูนมังงะและแอนิเมชั่นเรื่อง "AKIRA" ( เพราะทั้งคู่ชื่นชอบ Akira เป็นทุนเดิม :)

- "Ghost in the shell" ภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่นอันเป็น แรงบันดาลใจ ของเดอะเมทริกซ์ -


- การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง "Akira" อีกแรงบันดาลใจ ของผู้กำกับเดอะเมทริกซ์ -



...............................................................................


:: เค้าโครงสังเขป เดอะเมทริกซ์


ช่วงประมาณปี 2060 เป็นช่วงที่มนุษย์สามารถสร้างหุ่นยนต์เครื่องจักรอันมีรูปร่างและการเคลื่อนไหวเหมือนมนุษย์ที่เรียกว่า "ฮิวแมนนอยด์" ขึ้นมาเพื่อใช้งานได้ หุ่นพวกนี้สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาได้เองไม่ต้องรอใครมาออกคำสั่ง ทั้งมีความคิดริเริ่มเองได้ หรือที่เรียกเทคโนโลยี "ปัญญาประดิษฐ์ หรือย่อๆว่า A.I. " [(Artificial intelligence(A.I.)] (*A.I. ในที่นี้ยังหมายรวมไปถึงหุ่นเครื่องจักรที่มีรูปลักษณืไม่เหมือนมนุษย์ด้วยเช่นกัน ทั้งรวมไปถึง A.I. ที่เป็นแต่เพียง Code ในระบบคอมพิวเตอร์ หรือเป็นเพียง Algorithm อันไม่รูปร่างตัวตน!) ... โดยเริ่มแรก A.I. จะใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหลัก (ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ ร่างมนุษย์! เป็นแหล่งพลังงานหลักในภายหลัง)

หุ่น-เครื่องจักรA.I. (ต่อไปจะเรียกสั้นๆว่า "เครื่องจักร") เริ่มฉลาดมากขึ้นและบางตัวเริ่มมีความไม่พอใจนายมนุษย์ที่กดขี่ข่มเหง ก่อการประท้วง-เรียกร้องสิทธิ นำมาซึ่งการปะทะกันเป็นระยะๆ สุดท้ายหุ่นยนต์ต้องอพยพหนีออกจากเมืองใหญ่ และไปตั้งชุมชนของตัวเองเรียกว่า "ซีโร่วัน"(01)(เป็นดินแดนห่างไกลที่อยู่แถวตะวันออกกลาง) เมืองซีโร่วันเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างมาก แต่องค์การสหประชาชาติของมนุษย์กีดกันไม่ยอมรับว่าซีโร่วันเป็นประเทศเอกราชประเทศหนึ่ง จึงเป็นชนวนนำไปสู่การกีดกันสินค้าเป็นผลผลิตโดยพวกเครื่องจักร ทั้งการกีดกันสิทธิรูปแบบอื่นๆ เครื่องจักรไม่พอใจนำมาซึ่งสงครามในที่สุด!

ช่วง ค.ศ.2100 เกิดสงครามระหว่างเครื่องจักรกับมนุษย์ โดยระยะแรกของสงคราม มนุษย์ประสบความสำเร็จในการปิดกั้นท้องฟ้าจนกระทั่ง พวกเครื่องจักร ไม่อาจใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้ แต่อย่างไรก็ตามเครื่องจักรก็เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะเหนือเผ่าพันธุ์มนุษย์ในที่สุด พร้อมด้วยแหล่งพลังงานใหม่ที่เครื่องจักรค้นพบซึ่งก็คือพลังงานจากร่างของมนุษย์ผู้เป็นปรปักษ์เอง นับแต่นั้นมา มวลมนุษย์ก็ถูกจองจำกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตขึ้นภายในแคปซูลอันมีหุ่น-เคลื่องจักรA.I. ควบคุมกุมชะตา โดยตัวมนุษย์แท้ๆจะอยู่ในสภาพหลับใหล และถูกควบคุมจิตใจด้วยระบบโลกเสมือนจริงหรือโลกไซเบอร์ที่เรียกว่าระบบ "เมทริกซ์" อันเป็นเพียงแค่ระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งลวงจิตใจมนุษย์ขณะหลับยาวในแคปซูล(ในฝัน)ว่าตนยังใช้ชีวิตปกติทุกประการ โดยขณะที่ใช้ชีวิต(ในโลกเสมือนเมทริกซ์นั้น)จะถูกสูบพลังงานความร้อนและไฟฟ้าชีวภาพไปใช้ในฐานะของแหล่งพลังงานของเครื่องจักร เพื่อให้พลพรรคของเครื่องจักรทั้งปวงสามารถดำรงอยู่ได้ต่อไป

ภายในโลกเสมือนจริงเมทริกซ์นั้น ได้จำลองโลกในยุคสมัยศตวรรษ์ที่ 21 เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมเหมือนโลกจริงมากทำให้มนุษย์ที่เชื่อมกับเมทริกซ์ต่างไม่ได้ตระหนัก-ตั้งข้อสงสัยถึงลักษณะที่แท้จริงของมัน แต่อย่างไรก็ตาม มนุษย์ บางพวก [อันเป็นตัวละครผู้มีบทบาทหลักในภาพยนตร์บางคน อาทิ นีโอ, มอร์เฟียส, ทรีนิตี้ และชาวไซออน] เกิดมีปัญญาได้รับรู้ความจริงของเมทริกซ์ว่า มันเป็นแค่สิ่งลวงจิตไม่ใช่ของจริง ส่งผลให้พวกเขาดิ้นรนจนหลุดออกจากเมทริกซ์ และออกมาจากแคปซูลจองจำของเครื่องจักรได้ โดยไปรวมพลตั้งฐานที่มั่นอยู่ใต้ดิน เรียกว่าดินแดน "ไซออน"(Zion) ทั้งเมื่อพวกเขาเชื่อมต่อเข้าไปในเมทริกซ์ ยังสามารถเบี่ยงเบนกฏฟิสิกส์(ในโลกเมทริกซ์)บางส่วนเพื่อมีทักษะเหนือมนุษย์ในโลกจำลองเมทริกซ์ได้อีกต่างหาก(คล้ายเป็นผู้วิเศษมีฤทธิ์!) และก็เริ่มมีโครงการ-ปฏิบัติการก่อการทำลายระบบเมทริกซ์ เพื่อปลดแอกมนุษยชาติขึ้น แต่พวกเครื่องจักรก็รู้ทันและได้สร้างโปรแกรมเพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอม(หรือแก้ Bug)ในโลกเมทริกซ์ นั้นคือ สายลับ(Agent) โดยมี "สมิธ"(Agent Smith)เป็นหัวโจกใหญ่ ทั้งเครื่องจักรก็เริ่มโจมตีหมายทำลาย ไซออน ให้สิ้นซากด้วยอีกด้านหนึ่ง...


ประวัติศาสตร์ของระบบ เมทริกซ์


เมทริกซ์ ได้มีมาแล้วถึง 3 เวอร์ชั่น [ด้วยเหตุที่เครื่องจักรยังไม่สามารถเข้าใจจิตใจมนุษย์(ซึ่งซับซ้อนมาก)ได้อย่างถ่องแท้ทุกเม็ดนั่นเอง เลยต้องปรับเปลี่ยนเวอร์ชั่นไปเรื่อย พูดง่ายๆก็คือ ระบบเมทริกซ์ยังไม่นิ่งถึงที่สุดนั้นเอง]

เมทริกซ์ 1.0

ย้อนไปในยุคหลังจากความพ่ายแพ้ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ครั้งแรก เครื่องจักรได้สั่งสมประสบการณ์ในการเชื่อมต่อจิตใจมนุษย์เข้ากับโลกไซเบอร์ เวอร์ชั่นแรกของเมทริกซ์ที่มนุษย์ได้เชื่อมต่อด้วยนั้นถูกสร้างโดย The Architect (สถาปนิก) ดั่งที่นีโอได้พบเขาในตอนท้ายเรื่อง The Matrix Reloaded เมทริกซ์นี้เป็นเวอร์ชันแรกที่ออกแบบจำลองโลกเสมือนจริงแบบไม่มีสงคราม-โรคระบาด หรือภยันตรายใดๆ ทั้งปวง จะเรียกว่าเป็นยูโทเปียหรือโลกในอุดมคติอันสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม จิตใจมนุษย์เริ่มทำการปฏิเสธโลกเสมือนจริงรูปแบบนี้ ในฐานะที่มันดีเกินกว่าจะเป็นความจริงได้ ความไม่เชื่อถือจากธรรมชาติของมนุษย์ทำให้พวกเขาล้มตาย(ทั้งในโลกเมทริกซ์และในแคปซูล) ส่งผลให้เมทริกซ์เวอร์ชันนี้ล้มเหลวในการควบคุม นำไปสู่การสร้างเมทริกซ์ 2.0

เมทริกซ์ 2.0

ถ้าเปรียบเทียบเมทริกซ์ 1.0 ว่าเป็นสวรรค์แล้ว เมทริกซ์ 2.0 ก็จะเป็นนรกสำหรับผู้อาศัยอยู่ ด้วยสงคราม โรคระบาด และความตาย เปรียบเทียบได้ในยุคสงครามโลก ยุคสงคราม(คอมมิวนิสต์)รัสเซีย-จีน หรือการปกครองของนาซี และเหยื่อจากรังสีของระเบิดนิวเคลียร์!

ในเวอร์ชัน 2.0 นี้คือต้นกำเนิดของโปรแกรมดั่งเช่น Merovingian (ชายชาวฝรั่งเศสในภาค2 Reloaded)และ Persephone (ภรรยาของ Merovingian ที่ช่วยเหลือนีโอในการช่วยหา The Keymaker แลกกับการที่นีโอจูบเธอให้ได้อารมณ์ความรู้สึกเช่นเดียวกับที่นีโอเคยจูบทรินิตี้) และยังเป็นต้นกำเนิดของ ผี หรือ Ghost (The Twin ที่ทรินิตี้และมอร์เฟียสต่อสู้ด้วยบนไฮเวย์ในภาค Reloaded ที่มีความสามารถในการรักษาอาการบาดเจ็บของตน และทะลุผ่านของแข็งได้ด้วยการกลายร่างเป็นสิ่งที่คล้ายวิญญาณสลับกับการคืนร่างเดิม)

เวอร์ชันนี้ล้มเหลวในการควบคุมจิตใจมนุษย์เช่นกัน โดยอาจอธิบายได้ว่า หากความสมบูรณ์แบบคือสิ่งที่ไม่อาจเชื่อว่ามันปรากฏอยู่จริงได้แล้ว สิ่งนี้(ระบบเมทริกซ์ 2.0)ก็เปรียบได้ว่า คือฝันร้ายที่ไม่มีวันจบ ซึ่งโหดเกินไปกว่ามนุษย์จะรับได้

เมทริกซ์ 3.0

ธรรมชาติอันคาดเดาไม่ได้ของจิตใจมนุษย์ถูกค้นพบ การแก้ปัญหาถูกพบ The Architect เรียกมันว่าโปรแกรม "สัญชาตญาณ" ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เครื่องจักรเข้าใจจิตใจ-ถึงลวงจิตมนุษย์ให้ยอมรับระบบได้มากยิ่งขึ้น โดยมนุษย์รู้จักโปรแกรมนี้ในฐานะ The Oracle (เทพพยากรณ์) The Oracle ...The Architect ค้นพบว่า 99% ของมนุษย์จะยอมรับระบบหากให้ทางเลือก(Choice)ว่า "จะยอมรับหรือปฏิเสธระบบ The Matrix ภายในจิตใต้สำนึกลึกๆได้" โดยจะมีการให้ทางออกสำหรับอีก 1% ของผู้เป็นกบฏที่เหลือโดยการปลดปล่อยพวกเขาออกจาก Matrix เสีย ให้ไปอยู่ยังโลกแห่งความเป็นจริง และขับไล่พวกเขาไปสู่เมืองเฉพาะสำหรับพวกเขาเอง ที่มีชื่อว่า Zion

ในการทำให้ Zion อยู่ภายใต้การควบคุมได้นั้น เครื่องจักรได้สร้างระบบในการควบคุมซึ่งเป็นของเทียมเช่นเดียวกับ Matrix เอง...(แท้จริงแล้ว Zion เป็นแค่ Matrix เล็กๆ ซึ่งซ้อน Matrix อีกแห่ง ! ? )...ในการควบคุมมนุษย์ด้วยความหวังและแรงปรารถนา ภายใต้คอนเซปต์มี The One ผู้ปลดปล่อย

โปรแกรม The Oracle จะกล่าวคำพยากรณ์ซึ่งระบุไว้ว่า วันนึง Messiah (ผู้มาโปรดโลก, ศาสดา, หรืออาจหมายถึงพระเยซู - พระศรีอริยเมตไตรย์ของพุทธก็ได้) จะถือกำเนิดขึ้นโดยเขาจะมีอำนาจในการปลดปล่อยมนุษย์ออกจากเดอะเมทริกซ์อย่างสิ้นเชิง(หรือทำลายเมทริกซ์ได้) ซึ่งแน่นอนว่าคำทำนายทั้งหมดนี้ล้วนโกหก! เพราะแท้จริง The One จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความต่อเนื่องในระบบเมทริกซ์เท่านั้น (แต่คนอย่าง มอร์เฟียส์ และชาวไซออน เชื่ออย่างสนิทใจ)

เมื่อประชากรของ Zion เพิ่มขึ้นจนมากเกินไป The One จะถือกำเนิดขึ้นมาในเมทริกซ์ โดย The One จะได้รับอนุญาตในการติดต่อกับประชากรของ Zion และหนีออกมาจาก Matrix ได้(ดั่งที่เราเห็นใน The Matrix ภาคแรก) และ The One จะถูกดึงดูดให้มุ่งความสนใจไปในคำทำนาย มากกว่ากระบวนการที่แท้จริง(ของเบื้องลึกของระบบเมทริกซ์) จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปถึงจุดหนึ่ง Zion จะถูกเครื่องจักรโจมตี และจะมีแรงผลักดันที่จะนำ The One ไปพบกับ The Architect ผู้ซึ่งจะบอกความจริงเกี่ยวกับเมทริกซ์และภาระที่จะตามมา คือ...

"หน้าที่ของ The One ขณะนี้ได้หวนกลับมายังแหล่งกำเนิดอันนำไปสู่การหว่านเมล็ดของรหัสที่คุณรับภาระไว้ ฐานข้อมูลจะเริ่มขึ้นใหม่อีกครั้ง หลังจากที่คุณจะถูกเสนอให้เลือกประชากรในเมทริกซ์ 23 คน เป็นผู้หญิง 16 คน และผู้ชาย 7 คน เพื่อจะสร้าง Zion ขึ้นมาใหม่ โดยความล้มเหลวในการยินยอมขั้นตอนนี้จะส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบอย่างรุนแรงซึ่งจะฆ่าทุกคนที่เชื่อมต่อกับ Matrix เช่นเดียวกันกับการสูญสลายของ Zion จากการโจมตี ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่รุนแรงของการสูญสลายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งปวง"...คำกล่าวของ The Architect พูดกับ Neo ใน ภาค Reloaded

ผู้อยู่รอดที่เหลืออาจจะได้รับการบอกกล่าวถึงคำทำนายของ The One แต่จะไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ถึงวงจรการเริ่มต้นใหม่ของเมทริกซ์ โดยแต่ละวงจรของเมทริกซ์จะกินเวลาประมาณ 100 ปี

วงจรของ The One ส่งผลให้เครื่องจักรรักษาการควบคุมระบบเมทริกซ์ 3.0 มาได้ตลอดถึงวงจร 5 วงจรมาแล้ว โดยมีผู้ที่เป็น The One ทั้ง 5 คน(ในอดีต)เป็นตัวแปร อย่างไรก็ตาม คนที่ 6, นั้นคือ Thomas Anderson (หรือ "Neo") ในภาพยนตร์ที่เราได้ชมกัน มีจิตใจแตกต่างจากคนอื่นๆที่ผ่านมา ในทางที่ไม่เป็นดังเครื่องจักรคาดไว้ Ones คนอื่นๆ ล้วนตกอยู่ในสถานะความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์ดั่งเช่น Messiah (ผู้มาโปรดโลก) และเลือกที่จะยืดการคงอยู่ของเมทริกซ์ต่อ เพื่อป้องกันการสูญสลายของเผ่านพันธุ์มนุษย์ แต่สำหรับนีโอแล้ว ความสัมพันธ์นั้นคือความรักส่วนตัว เพราะเขารักผู้หญิงนั้นคือ ทรินิตี้(Trinity) (ซึ่ง The Oracle ก็ทำนายเอาไว้แล้วว่า เธอจะตกหลุมรัก The One)...แต่นีโอปฏิเสธข้อเสนอของ The Architect ในการช่วยเหลือมนุษยชาติ และทำการตัดสินใจอย่างไร้เหตุผลในการช่วยเหลือทรินิตี้จากการโจมตีของ พวก Agent

ในขณะเดียวกัน สมิธ (Smith) Agent ผู้ทรยศต่อเครื่องจักรและแข็งแกร่งขึ้นมากจากการเผชิญหน้ากับนีโอในครั้งก่อนๆ(สมิธ กลับวิวัฒน์ตัวเองได้) ได้กระจายไปทั่วทั้งเมทริกซ์ดั่งไวรัส จากความสามารถในการเปลี่ยนบุคคลในเมทริกซ์ให้เป็นตัวเขาเอง ทำให้เขากลายเป็นอันตรายต่อทั้ง(ระบบเมทริกซ์ของ)เครื่องจักร และมนุษย์ ...นีโอได้ยื่นขอเสนอกับพระเจ้าเครื่องจักร (ในเรื่อง รู้จักในชื่อ "Deus ex Machina" เดอุส เอ็กส์ มาคินา) ในการทำลายสมิธเพื่อคืนความสงบสุขกลับมา พระเจ้าเครื่องจักร ยอมรับข้อเสนอด้วยความกลัวที่ว่า เขาอาจจะไม่สามารถควบคุมหรือกำจัดสมิธ ผู้ที่เติบโตจนไม่สามารถคำนวณความแข็งแกร่งได้ และเป็นที่รู้จักในฐานะที่ถูกครอบงำโดยความปรารถนาของเขาที่จะ"ปลดปล่อย" โลกและทุกสิ่งทุกอย่างที่แปดเปื้อนโดยกลิ่นของมนุษย์(อันหมายถึง อาณาจักรของเครื่องจักรด้วย) นั่นทำให้นีโอและสมิธต่อสู้กันภายในเมทริกซ์อีกครั้ง จนกระทั่งสมิธได้ทำการเปลี่ยนร่างของนีโอให้กลายเป็นสมิธอีกคน ส่งผลให้สมิธทุกคนถูกทำลาย และนีโอต้องจบชีวิตลง

ภายในภาพยนตร์ ภาคสุดท้ายภาค 3 หรือ The Matrix Revolution ทิ้งปริศนาไว้ให้ปวดหัวพอควรว่าทำไม สมิธตายเมื่อดูดร่างนีโอได้ *ความเป็นไปได้หนึ่งคือ เมื่อสมิธได้แพร่รหัสของตนเข้าไปยังร่างนีโอ ทำให้พระเจ้าเครื่องจักร Deus ex Machina สามารถเชื่อมนีโอในการทำลายสมิธได้(นีโอ เชื่อมกับสายของ Deus ex Machina ในการเข้าไปสู้กับสมิธในเมทริกซ์) แต่ไม่ว่าจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม ในที่สุดสันติสุขก็คืนกลับมา หลังจากหลายร้อยปีแห่งความขัดแย้ง และประชาชนของ Zion ก็ได้รับอนุญาตให้อยู่รอดต่อไปไม่ถูกเครื่องจักรทำลาย...และระบบเมทริกซ์ก็ยังดำเนินต่อไป! รีเซ็ตใหม่กลายเป็นอีกเวอร์ชั่น หรือ เวอร์ชั่น 4.0

.........................................................................................


ว่า คำ-ความหมายแฝง ใน เดอะ เมทริกซ์

คำที่ใช้เป็นชื่อต่างๆในเมทริกซ์มักมีความหมายแฝงหลายอย่าง ซึ่งเป็นความบันเทิงส่วนหนึ่งของแฟนคลับที่ได้ค้นหาและรู้ความหมายแฝงเหล่านี้ โดยเบื้องต้นบทความนี้แปลและรวบรวมมาจาก The Matrix Glossary , Forwardmag , vol.19 May 2003 vol.25 Nov 2003 และ The Matrix character names จาก wikipedia จึงมีบางคำที่ซ้ำกัน แต่มีการตีความของความหมายที่แตกต่างกัน และในส่วนนี้จะขอคงการสะกดชื่อต่างๆด้วยอักษรโรมันไว้ไม่เปลี่ยนเป็นภาษาไทย โดยเรียงตามลำดับอักษร A B C...ดังต่อไปนี้

Theme - หมวดแก่นหลักของเรื่อง

A.I. : ในช่วงกลางศตวรรษที่ 21 มนุษย์สร้างจักรกลที่เรียกว่า Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ได้สำเร็จ แต่ไม่นานนักมันก็มีสติปัญญาล้ำหน้า และเรียนรู้ที่จะควบคุมมนุษย์ พวกเขาจึงได้ตัดสินใจทำลายชั้นบรรยากาศเพื่อไม่ให้แสงอาทิตย์ส่องลงมาถึงพื้นโลกได้อีก เมื่อไม่มีแหล่งพลังงาน A.I. ได้ทำให้มนุษย์กลายเป็นแหล่งพลังงานที่ไม่สิ้นสุดของมันแทน โดยสร้างโปรแกรมเมทริกซ์ขึ้นมาครอบงำ (Fw.mag)

Matrix : โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาลวงจิตใต้สำนึก(วิญญาณ)ของมนุษย์ เพื่อควบคุมและใช้กระแสไฟฟ้าชีวภาพจากร่างกาย ผลิตพลังงานให้จักรกลอัจฉริยะ แท้จริงแล้วเมทริกซ์คือ เมืองคอมพิวเตอร์จำลองมีขนาดใหญ่กว่ามหานครนิวยอร์คถึงสิบเท่า (Fw.mag)

.........................................................................................


Characters - หมวดตัวละคร

Agents : พวกเอเย่นต์มีหน้าที่กำจัดกบถต่อต้านระบบ Matrix ซึ่งได้แก่ Smith,Jones และ Brown คำว่า Agent ในภาษาคอมพิวเตอร์หมายถึง Intelligent Computer Assistant ด้วย(คำว่า Intelligence นอกจากจะหมายถึง ทรงปัญญา ยังหมายถึง สายลับ ได้อีกด้วย) (Fw.mag)

Ajax : (CaptA.I.n Ajax หรือ กัปตัน เอแจคซ์) ผู้บัญชาการยาน The Icarus. Ajax มีชื่อเหมือนกับฮีโร่ของกรีกคนหนึ่งชื่อ Ajax ในนิยาย Iliad ของ Homer ซึ่งมีคนชื่อนี้สองคนและเป็นฝ่ายเดียวกัน) Ajax ที่มักเป็นที่รู้จักคือ Ajax ที่เป็นชาวกรีก และเป็นผู้นำเรือ12ลำจาก Salamis เข้าสู่สงครามแห่งทรอย เพื่อชิง Helen คืนมา

Apoc : ในหนังกล่าวถึง Apoc ไว้ว่า เป็นผู้สร้างไวรัสทั้งสี่ในคอมพิวเตอร์ และถ้าหากเปรียบเทียบ อ้างอิงจากพระคัมภีร์ใหม่ในบทวิวรณ์แล้ว คำว่า Apoc ก็ยังกล่าวได้ว่ามาจากคำว่า Apocalypse ซึ่งหมายถึง ความล่มสลายหรือความพินาศของโลกได้ด้วย(โลกาวินาศ) (Fw.mag)

Apoc : หรือ เอพ็อค ย่อมาจาก Apocalypse ซึ่งหมายถึง พระคัมภีร์วิวรณ์ เป็นพระคัมภีร์เล่มสุดท้ายในพระคัมภีร์ใหม่, หรือการแสดงให้เห็นความจริง การเปิดเผยของพระเจ้า.

Architect : หรือ สถาปนิก เป็นโปรแกรมซอฟแวร์สถาปนิก คือผู้ที่ออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ระดับสูงและยังสันนิษฐานได้ว่า The Architect เป็นผู้ออกแบบ The Matrix ด้วยตัวของมันเองแต่มันไม่สามารถทำงานอย่างที่เขาตั้งใจ จึงอาจเป็นเหตุให้ต้องมี The Oracle เข้ามา. "The Architect" ยังเป็นชื่อเรียก "พระเจ้า" ในศาสนาพระเจ้าองค์เดียวโดยพวกองค์กรหรือสมาคมลับที่ชื่อว่า Freemasons.

Ballard : (CaptA.I.n Ballard หรือกัปตัน บัลลาร์ด) อาจจะอ้างอิงจากชื่อ J. G. Ballard นักแต่งนวนิยายชาวอังกฤษและเป็นผู้บุกเบิก "cyberpunk" ให้เริ่มเคลื่อนไหวในงานวรรณกรรมและเป็นแรงบันดาลใจหนึ่งของ The Matrix

Bane : หรือ เบน สมาชิกยาน Caduceus ซึ่งตอนหลังถูก Smith กลืนกินบุคลิกภาพ คำว่า Bane อาจจะหมายถึง "Nemesis" หรือ "Enemy" ซึ่งหมายถึงศัตรูนั่นเอง

CA.I.n : บางทีใช้ KA.I.n เป็นอีกรูปหนึ่งของคำว่า CA.I.n หมายถึง ได้รับ หรือหมายถึง หอก ในภาษาฮีบรูก็ได้ ในบทเจเนซิสจากคัมภีร์เก่า CA.I.n เป็นบุตรคนแรกของ Adam และ Eve เขาได้ฆ่า Abel น้องชายหลังจากที่พระเจ้ารับเอาบรรณาการจากน้องชายแทนที่จะรับจากเขา ในอีกความหมายหนึ่งในภาษา Welsh คำว่า KA.I.n ยังหมายถึงความงดงาม หรือในภาษาไอริช/เกลลิค ก็หมายถึงการต่อสู้ หรือบุตรของนักรบก็ได้ (Fw.mag)

CA.I.n and Abel : เคน (หรือ คาอิน ตามพระคัมภีร์) และ อาเบล (ซึ่งเป็นพวกแวมไพร์และเป็นข้ารับใช้คนสนิทของ the Merovingian) - ชื่อคาอิน และ อาเบล อาจจะหมายถึง บุตรสองคนแรกของโลก (ซึ่งเป็นลูกของ อดัม และอีฟ)ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเก่า ในเมทริกซ์รู้จักกันดีว่าเป็นพวกโปรแกรม "Hacking" ที่อยู่ในระบบ (พวกผู้หลบหนี)

Charra - (สมาชิกกลุ่มป้องกัน Zion (เป็นผู้หญิงคนที่แบกปืน bazooka) ในภาษาสเปนหมายถึง "Cowgirl"

Choi / DuJour : พวกเยอรมันที่มาซื้อซอฟท์แวร์จาก Neo คำว่า DuJour ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง of the day ในหนัง Choi ถาม Neo ว่าจะออกไปข้างนอกหรือจะอยู่บ้าน "ท่าทางนายน่าจะถอดปลั๊กออกได้แล้วมั้ง" ซึ่งก็คล้ายกับว่าทั้งคู่ต่างยื่นข้อเสนอบางอย่างให้กับ Neo(Choi + DuJour เท่ากับวลีทีว่า Choix du jour ซึ่งหมายถึง Choice of the day หรือ ข้อเสนอที่มอบให้) บางทีทั้งคู่อาจเป็นลูกเรือของยานลำอื่นที่เข้ามาช่วย Morpheus ตามหาตัว Neo (Fw.mag)

Choi - หรือชอย เป็นภาษาฝรั่งเศสของคำว่า "choice" (ปรับเล็กน้อยจากคำว่า choix) และแฟนของเขา Dujour ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "of the day" (ปรับเล็กน้อยจากคำว่า du jour). "Choix du jour" อาจจะแปลว่า "ทางเลือกของวันนี้" หรืออาจจะพ้องกับประโยค "Croix de Guerre" แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Cross of War (ไม่แน่ใจว่า cross จะหมายถึงกางเขนหรือไม่ --ผู้เขียน)

Commander Jason Lock : ผู้บัญชาการใหญ่ เจสัน ล็อค อาจอ้างอิงจากชื่อ John Locke ซึ่งเป็นนักปรัชญา รหัสเรียกทางวิทยุของ Lock คือ "Deadbolt" ซึ่งมีความหมายเป็นการเล่นคำกับชื่อของเขา (deadbolt จากพจนานุกรม WordNet - "the part of a lock that is engaged or withdrawn with a key" --ผู้เขียน)

Councillor Hamann : สมาชิกสภาสูง ฮามัน อาจอ้างอิงจากชื่อ J. G. Hamann (Johann Georg Hamann) นักปรัชญา

Councillor Dillard : สมาชิกสภาสูง ดิลาร์ด อาจอ้างอิงจากชื่อ Annie Dillard นักเขียน นักประพันธ์

Councillor West : สมาชิกสภาสูง เวสต์ อาจอ้างอิงจากชื่อ Dr. Cornel West นักปรัชญา (ซึ่งเขาได้ให้เกียรติมาแสดงเป็นตัวละครนี้ในภาพยนต์ด้วย)

Cypher : ในทางคอมพิวเตอร์แล้ว คำนี้มีความหมายว่า ศูนย์ ซึ่งก็ตรงข้ามกับ หนึ่ง อย่างสิ้นเชิง ถ้าพูดถึงเลขฐานสอง ในภาษาคอมพิวเตอร์และในทางคณิตศาสตร์ ก็คือเลข 0 และ 1 นั่นเอง ในทางศาสนา Cypher เปรียบได้กับ Judas หรือ Demon ที่เป็นผู้ทรยศและเปรียบได้กับมาร หรือถ้าจะให้เห็นภาพตอนหนึ่งของหนัง Cypher ที่ไว้เครา และสวมแว่นกันแดดสะท้อนไฟสีแดงบนเลนซ์ยิ่งทำให้เขาดูเหมือนซาตาน นอกจากนี้เขายังเป็นสมาชิกคนเดียวในเรื่องที่สวมชุดสีแดง เขาพูดกับ Trinity ว่า " อย่าโกรธกันเลย ฉันเป็นแค่ผู้นำสาส์นเท่านั้น " ซึ่งซาตานเองก็เรียกตนว่าผู้นำสาส์นเช่นกัน Cypher ยังเป็นการเล่นคำที่ถอดมาจาก Lucifer ด้วย (Fw.mag)

Cypher : อาจจะสื่อถึง Ciphering หรือ Encryption ซึ่งก็คือการเข้ารหัสเพื่อป้องกันไฟล์งานเขียนหรือ Documents และโปรแกรมต่างจาก Hacker ตัว Cypher เองเป็นบุคคลที่ดูยากจะเข้าใจและความเห็นแก่ตัว (selfishness) และการทรยศก็ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ลักษณะภายนอกของเขา โดยชื่อ Cypher ก็เป็นชื่อที่รู้กันในวัฒนธรรมของพวก Hacker อย่างหนึ่งที่เหมาะจะใส่เข้ามาในภาพยนต์อย่างมาก คำว่า Cypher อาจจะหมายถึง Lucifer ซึ่งเป็นเทวดาที่กลายเป็น Satan โดยดูจากอาการต่อต้านที่เขาแสดงต่อ Morpheus ก้เหมาะสมดี

Dozer : ลูกยานของ Morpheus คำว่า Dozer อาจมีความหมายว่า คนที่นอนหลับ หรือครึ่งหลับครึ่งตื่นก็ได้ สังเกตให้ดี The Matrix จะมีนัยของการตื่น และหลับฝันอยู่ทั้งเรื่อง (Fw.mag)

Ghost : หรือ โกสต์ ชื่อของ Ghost อาจจะมาจากประโยค "Ghost in The Machine" (ผีในเครื่องจักร ซึ่งอธิบายคอนเซปต์ จิต-กาย แบบทวิภาวะ (Mind-Body Dualism) เป็นคำพูดที่นักศึกษาปรัชญาอาจจะอ้างจากนักปรัชญา David Hume, William James, Nietzsche และโดยเฉพาะ Kierkegaard.

Kali : (CaptA.I.n Kali หรือ กัปตัน กาลี) Kali เป็นชื่อของเทพเจ้าในศาสนาฮินดู เป็นปางที่น่ากลัวและถูกบรรยายว่าบางครั้งก็เสวยศพในสนามรบเป็นอาหาร เป็นมเหสีของ Shiva (พระอิศวร(กาลีแท้จริงคือปางหนึ่งของพระแม่อุมา --ผู้เขียน)) Kali ยังเป็นเทพเจ้าผู้ถ่วงดุลระหว่าง ความเป็น และ ความตาย ด้วย

Kamala : หรือ คามาล่า (หรือ กมลา) อาจจะหมายถึง Kamala หรือนาง กมลา ผู้เป็นนางคณิกา(โสเภณีชั้นสูง) ซึ่งได้ผันตนมาเป็นพุทธสาวิกาของพระพุทธเจ้า (บางทีอาจจะหมายถึงพระกมลา ซึ่งเป็นอีกพระนามหนึ่งของ พระลักษมี ผู้เป็นมเหสีของ พระนารายณ์ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า--ผู้เขียน)

Lazarus : ในคัมภีร์ไบเบิ้ล มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับชายร่ำรวย และชายยากจน Lazarus อยู่ตอนหนึ่ง ชายร่ำรวยใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานและฟุ่มเฟือย วันหนึ่งชายยากจนมาอยู่ที่หน้าประตูบ้านของเขา ล้มป่วยลงด้วยโรคร้าย โดยหวังว่าชายร่ำรวยจะเอื้อเฟื้อเขาบ้าง แต่ก็ไม่มีความช่วยเหลือใดๆจากชายร่ำรวย ในที่สุดเขาก็เสียชีวิต หลังจากนั้นเขาก็ถูกพระเยซูปลุกให้ฟื้นคืนจากความตาย (Fw.mag)

Link : หรือ ลิงค์ โดยปกติ link หมายถึงสิ่งที่เชื่อมบางอย่างเข้ากับอีกอย่างไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังนิยมหมายถึง Computer Technology อีกอย่างหนึ่งโดยเป็นศัพท์เฉพาะทาง "Link" อาจจะหมายถึง A Reciprocal Link, A Hyperlink, A Data Link, or A Hard Link เหล่านี้เป็นต้น และยังอาจจะหมายถึง Link จากตำนาน the Legend of Zelda series โดยเฉพาะเมื่อดูที่ชื่อของภรรยาของ Link ใน The Matrix คือ "Zee" ซึ่งเป็นตัวย่อของคำว่า Zelda ก็ได้

Malachi : (เป็นผู้ช่วยอยู่บนยานของบัลลาร์ด ทำงานตำแหน่งเดียวกันทรินิตี้ บนยานของมอเฟียส-- ผู้เขียน) หมายถึง "My Messenger/Angel" (เทวทูตของฉัน) Malachi คือศาสดาพยากรณ์(อันดับรอง)คนสุดท้าย (The Last of The Minor Prophets) และเขียนหนังสือเล่มสุดท้ายของพระคัมภีร์พันธสัญญาเก่า

Merovingian : กล่าวกันว่ากษัตริย์องค์แรกของ Franks(ต่อมาคือฝรั่งเศส) นั้นคือ Merovech และยังมีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่า ตระกูล Merovingian นั้นสืบทอดมาจากพระเยซูด้วย มีตำนานเล่าว่า Merovech เป็นบุตรของบิดาสองคน( หนึ่งคือมนุษย์ สองคืออสูรจากทะเล )ใน Reloaded, Merovingian เป็นผู้มีพลังที่สามารถควบคุม Matrix ได้ และยัง Reprogram ตัวเองได้อีกต่างหาก (Fw.mag)

Merovingian : หรือ เมอโรวินเจี้ยน The Merovingians เป็นชื่อของกษัตริย์ราชวงศ์หนึ่งในอาณาจักร แฟรงค์ Franks (ซึ่งกลายเป็นประเทศฝรั่งเศสในปัจจุบัน) ซึ่งราชวงศ์นี้เคยปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในฝรั่งเศสและเยอรมันบางส่วนตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 ถึง 8 (ในภาพยนต์ The Merovingian ยังชอบใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษารองในการสบถด้วย --ผู้เขียน) และชื่อนี้ยังมีการกล่าวถึงในนวนิยายอื่นๆ เช่น The Da Vinci Code ชื่อของ The Merovingians สื่อไปถึงเชื้อพระวงศ์ของพระเยซูเจ้า (Jesus Christ) ในภาพยนต์เดอะ เมทริกซ์ The Merovingian มีลักษณะตัวละครเหมือนกับเทพเจ้า เฮเดส (Hades) แห่งนรกในเทพนิยายกรีกซึ่ง เฮเดสคือผู้ที่แต่งงานกับ Persephone (ชื่อของ Hades นั้นแปลว่า ผู้ที่มั่งคั่ง, ที่อุดมสมบูรณ์ ก็ได้ซึ่งเข้ากับบุคลิกของ The Merovingian ที่ค่อนข้างดูร่ำรวย ความหมายอื่นของ Hades ในภาษากรีกโบราณอาจแปลว่าสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งน่าจะเป็นเพราะ เทพ Hades เวลาขึ้นมาบนโลกชอบใส่เกราะที่ทำให้หายตัวเพื่อไม่ให้คนที่เห็นต้องกลัว และแม้จะเป็นเจ้านรกแต่ Hades นั้นไม่ใช่เทพแห่งความตาย ซึ่งก็คือเทพอีกองค์ที่ชื่อว่า Thanatos)

Mifune : หรือ มิฟูเน่ ชื่อนี้เป็นการให้เกียรติกับ Toshiro Mifune นักแสดงซึ่งรับบทนักรบ SamurA.I. ในภาพยนต์ญี่ปุ่นหลายเรื่อง (ใน เดอะ เมทริกซ์ มิฟูเน่ เป็นนักรบที่กล้าหาญและแสดงออกถึงน้ำใจดุจดั่ง SamurA.I. เป็นอย่างมากแม้จะเสียชีวิตในสงครามก็ไม่หวาดหวั่นและคำนึงถึงภารกิจเป็นหลัก-- ผู้เขียน)

Morpheus : เป็นเทพเจ้าแห่งความฝันของกรีก ส่วนคำว่า Orpheus ในเทพนิยายกรีกก็ยังหมายถึง ตัวละครที่เดินทางไปใต้โลกเพื่อช่วย Euridicye นางอันเป็นที่รักหลังความตายอีกด้วย คำว่า Morpheus ในทางศาสนายังหมายถึง God of Father อย่างตอนหนึ่งที่ Tank พูดว่า " มอร์เฟียซ คุณเป็นยิ่งกว่าผู้นำของเรา คุณเป็นเหมือนกับพ่อของเรา " นั่นยังไง (Fw.mag)

Morpheus : (CaptA.I.n Morpheus หรือ กัปตัน มอเฟียส) เทพเจ้าแห่งความฝันและการหลับไหลของกรีก (ชื่อภาษากรีกคือ Μορφέας)

Mouse : สื่อถึง Computer Mouse และอาจจะหมายถึงชื่อของตัวละครใน The Hugo Award Nominated Science Fiction Novel Nova (1969) โดย Samuel R. Delany.

Neo : มีความหมายว่า " ใหม่ " เขากลายเป็นคนใหม่หลังจากถูกปลดออกจากปลั๊ก เปรียบได้กับการเกิดใหม่อีกด้วย ซึ่งก็คือการได้ตื่นขึ้นและกลายเป็นมนุษย์จริงๆ ไม่ต้องอยู่ในเครื่องจักรอีกต่อไป ในหนังตอนหนึ่ง Choi พูดกับ Neo ว่า " ฮัลเลลูย่าห์ นายเป็นผู้มาโปรดของฉันเพื่อน นายเป็นพระเยซูส่วนตัวของฉัน " การที่นีโอตายไปชั่วขณะแล้วกลับฟื้นขึ้นใหม่เพื่อมาช่วยมนุษย์คนอื่นที่ถูกจองจำก็น่าจะมีอะไรคล้ายกับพระเยซูไม่น้อย คำว่า Neo เมื่อสลับอักษรอ่านได้ว่า One (Fw.mag)

Neo / Thomas Anderson : นีโอ หรือชื่อเดิม โทมัส แอนเดอร์สัน กับคำว่า 'Neo' มีลักษณะเป็น อนาแกรมของคำว่า 'eon' และ 'One' จากคำว่า The One หรือ ผู้ปลดปล่อย (อนาแกรมคือการสลับที่ตัวอักษรในคำแล้วกลายเป็นคำอื่นได้) Neo ( Νέο ) เป็นภาษากรีกซึ่งแปลว่า "ใหม่" 'new' ซึ่งอาจเป็นความหมายแฝง เกี่ยวกับความเป็นพระผู้ไถ่ในฐานะที่ Neo มาปฏิบัติภารกิจในโลกของ เดอะ เมทริกซ์ ส่วนชื่อ "Thomas Anderson" ดูเหมือนจะใกล้เคียงกับบทสวด Gospel of Thomas และคำภาษากรีก "Man", Andras (Άνδρας), ซึ่งในภาษากรีกโบราณคือ Andros (เป็นคำแสดงความเป็นเจ้าของ เหมือนภาษาอังกฤษในรูปเติม 's --ผู้เขียน) จากคำแผลงนี้ "Andros-Son" อาจจะแปลได้ว่า Son of Man (บุตรของมนุษย์) ซึ่งเป็นคำหนึ่งที่เคยถูกใช้เรียกพระเยซูคริสต์ Thomas อาจจะสื่อถึง Doubting Thomas ซึ่งเป็นชื่อของสาวกคนหนึ่งของพระเยซูที่เคยสงสัยในการเกิดใหม่ (ฟื้นจากตาย) ของพระเยซูคริสต์ในทีแรก ( ในภาพยนต์จะเห็นว่าเมื่อครั้ง Neo ยังเป็น Thomas Anderson ที่ยังไม่หลุดออกจากเมทริกซ์ เป็นคนที่ดูจะไม่เชื่อในตัว ผู้ปลดปล่อย (The One) มากที่สุดคนหนึ่งตั้งแต่แรก เขาไม่เชื่อมอเฟียสและยอมโดนจับในครั้งที่ถูกพวกสายลับบุกจับกุมเพราะถูกสืบรู้ว่าเขาติดต่อกับพวกมอเฟียสอยู่ และแม้แต่เมื่อหลุดออกจากเมทริกซ์แล้ว เขาก็ยังไม่เชื่อว่าตัวเองเป็น Neo ในฐานะผู้ปลดปล่อย และไม่ได้มีพรสวรรค์วิเศษใดๆจนกระทั่งท้ายที่สุดเขาถูกยิงตายโดย Agent Smith และตัวเขาเองได้ฟื้นขึ้นจากความตาย (แบบเดียวกับพระเยซูคริสต์) นั่นเองเขาจึงเริ่มชื่ออย่างหมดใจว่า เขาคือผู้ปลดปล่อย --ผู้เขียน)

Niobe : (CaptA.I.n Niobe) ในมหากาพย์อีเลียดของโฮเม่อร์ Niobe เป็นหญิงที่เปรียบเทียบตนเองกับเทพยดา โดยทำนายว่า Leto นั้นสามารถให้กำเนิดบุตร และ ธิดา ได้ถึง 12 คน แต่พระนาง Leto กลับมีลูกได้เพียงสองคนเท่านั้น (สองคนที่ว่าคือ Apollo กับ Artemis) แน่นอนว่าความข้อนี้ก็แพร่ไปถึงเขาโอลิมปัส พระนาง Leto จึงส่งบุตร และ ธิดา ทั้งสองไปลงโทษเธอ Niobe เศร้าโศกและคร่ำครวญอยู่นานจนที่สุดเธอก็กลายเป็นหินอยู่บนเขา Sipylon ในตำนานของโรมันกล่าวว่า หลังจากเธอเป็นหินแล้วรูปปั้นนี้ยังคงมีน้ำตาไหลอยู่ตลอดเวลา (Fw.mag)

Oracle : เทพพยากรณ์ในตำนานกรีกนั้นมีหลายคนด้วยกัน เป็นไปได้ทั้งชาย และหญิง แต่เทพพยากรณ์ที่ทุกคนรู้จักดีคือ Sybil แห่ง Sistine Chapel ตัวเทพพยากรณ์แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีเขียวในท่อนบน และสีส้มในท่อนล่าง เทพพยากรณ์ในเมทริกซ์ก็เช่นกัน สังเกตให้ดีครัวของเทพพยากรณ์เองก็มีสีเขียวและส้มเหมือนกัน (Fw.mag)

Oracle : หรือในนามของ "มารดา" แห่ง เดอะเมทริกซ์ ซึ่งเป็นฉายาที่เรียกขานโดย The Architect หรือพระผู้สร้างหนึ่งเดียวแรกสุด (Primary Creator) Oracle อาจมาจาก The Delphic Oracle (ดิออราเคิล แห่งเดลฟี่) เทพยากรณ์ผู้ซึ่ง "เห็นทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง"ในภาพยนต์นั้นมีการวาง Character เหมือนกับ The Delphic Oracle (Μαντείο Δελφών) หลายอย่าง รวมทั้งคำภาษาลาติน "Know Thyself" เหนือประตูห้องครัวของเธอ เกาอี้สามขาที่เธอนัง (the Pythia (นักบวชหญิงแห่งเทพ Apollo ผู้ปวารณาตนจนกระทั่งอายุได้ 50 ปี --ผู้เขียน) ก็จะนั่งบนเก้าอี้สามขา) และแม้แต่การสูดกลิ่นของคุกกี้ The Pythia ก็จะทำพิธีสูดไอบางอย่างเพื่อเข้าสู่สภาวะที่อยู่ในภวังค์ก่อนการทำนาย ในเดอะเมทริกซ์ Oracle ค่อนข้างซับซ้อนและเป็นโปรแกรมคำนวณระดับสูง กล่าวคือตัว Oracle Machine เป็นเครื่องจักรที่รวบรวมสถิติและการหาทางตัดสินปัญหาด้วยวิธีการเรียนรู้ปัญหาก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงออกมาในเดอะ เมทริกซ์

Persephone : ในเทพนิยายกรีกเธอเป็นธิดาของ Zeus และ Demeter เธอถูกเทพแห่งอเวจี Hades จับตัวไปใต้โลกเพื่อเป็นภรรยา เธอได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาบนโลกไม่กี่ครั้ง ในเทพนิยายกล่าวว่าการที่เธอขึ้นมาบนโลกแต่ละครั้งก็คือการเปลี่ยนฤดูนั่นเอง คำว่า Persephone อาจมีที่มาจากภาษกรีกว่า Pettho ที่หมายถึง ทำลาย และ Phone ในภาษากรีกก็หมายถึง ฆาตกรรม ด้วย แต่ที่น่าแปลกก็คือคำว่า Persephone กลับมีความหมายว่า คนช่างฝัน แทน (Fw.mag)

Persephone : จากเทพนิยายกรีก อาจหมายถึงเทพเจ้า Persephone (Περσεφόνη) ซึ่งถูกพาไปอยู่ที่นรกโดยเทพเจ้า Hades ซึ่งเธอเป็นคนที่สวยมากและถูกลักพามาเป็นเจ้าสาวแห่งปิศาจ (คือ Hades) แม่ของเธอคือเทพ Demeter (Δήμητρα) ซึ่งเป็นเทพแห่งพืชผลและการเก็บเกี่ยว(คล้ายกับพระแม่ธรณี) ต้องการลูกคืนจากเฮเดส ซึ่งเฮเดสได้ยินยอมอนุญาตให้ Persephone ขึ้นมาบนโลกปีละหกเดือนเพื่ออยู่กับแม่และเวลาที่เหลือต้องลงไปอยู่ในนรกกับเฮเดส

Rama Kandra : รามา กันดรา อาจจะหมายถึงชื่อ Rama Kandra ในศาสนาฮินดู (ภาษาไทยอาจจะเป็น รามจันทรา) ซึ่งเป็นอวตารร่างหนึ่งของ Vishnu (พระนารายณ์)

Sati - สติ อาจจะหมายถึงชื่อ Sati (สตี)ในศาสนาฮินดู (คำว่าสตี เป็นพระนามเดิม ของพระอุมาเทวี ซึ่งแปลว่า ผู้หญิงที่มีใจบริสุทธิ์ ก่อนจะมาเป็นพระมเหสีพระอิศวร ซึ่งคำว่า สตรี ที่ใช้ในปัจจุบันก็อาจจะมาจากคำนี้-- ผู้เขียน). Sati (หรือ สตี) มักจะแปลว่า "Self Immolation" คือการบูชายันตัวเองในพิธีเผาตัวเองในกองไฟของอินเดียซึ่งเกี่ยวข้องกับตำนานพระอุมาเทวีนั่นเอง อีกความหมายในภาษาบาลี (Pali) คำว่า Sati (สติ) อาจจะหมายถึง "The State of Being Mindful" หรือสภาวะที่เราเพ่งจิตตัวเอง (คือภาษาไทยหมายถึง สติ ในตัวมันเองอยู่แล้ว) ซึ่งก็คือ Sati (สติ) ที่เป็นการตระหนักรู้ตัวเราแบบมากกว่าปกติ หรือการตั้งสติรู้ตัวอยู่เสมอ (self-consciousness)

Seraph : กร่อนมาจากคำว่า Seraphim ในพระคัมภีร์ ความหมายดั้งเดิมของชาวฮีบรูหมายถึง ผู้มีเพลิง ซึ่งเป็นชื่อของผู้ปกครองเหล่าเทวดา,IsA.I.ah ได้กล่าวไว้ในไบเบิ้ลว่า Seraphim นั้นมีปีกหกข้าง ชื่อนี้ได้รับมาจากเซนต์ Seraphina ที่ถูกฆ่าสังเวยในยุคศตวรรษที่ 5 ที่จริงแล้ว Seraphim เป็นหนึ่งในผู้ปกครองทั้งเก้าของเหล่าเทวดาทั้งหมด (Fw.mag)

Seraph : หรือเซแรฟ คำว่า "Seraph" หมายถึงสมาชิก 1 คน(รูป Singular) ของกลุ่มที่เรียกว่า "Seraphim" (Σεραφείμ) ภาษาไทยคือ เซราฟิม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของลำดับขั้นของเทวดาใน Christian Theology ในยุคกลาง (ระดับอื่นๆรองลงมาเช่น เครูบิม, โทรน, อาร์คแองเจิ้ล เป็นต้น)

Smith : ในเดอะ เมทริกซ์ Smith ขับรถออดี้ Audi A8 โดยมีแผ่นป้ายทะเบียนคือ "IS 5416" ซึ่งในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับ King James Bible เล่ม IsA.I.ah 54:16 เขียนไว้ว่า "Behold, I have created the smith that bloweth the coals in the fire, and that bringeth forth an instrument for his work; and I have created the waster to destroy." (แปลว่า ดูเถิด, เราได้สร้าง Smith ผู้เป่าถ่านและก่อไฟ และตีเหล็กเพื่อเป็นเครื่องมืออาวุธ และเราสร้างผู้ใช้มันเพื่อทำลาย) ซึ่งอาจหมายถึงชื่อของสายลับ (Agent) ที่เป็นหลัก ทั้งสามในเดอะ เมทริกซ์ (Smith, Jones และ Brown) อนึ่ง ซึ่งเป็นนามสกุลของคนทั่วไปและพบได้จำนวนมาก (อาจเป็นการล้อที่ Agent สามารถเข้าออก(สิง)คนทั่วๆไปได้และเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครเป็น Agent อยู่)

Soren : (CaptA.I.n Soren) อาจมาจาก Søren Kierkegaard นักปรัชญาที่เป็นผู้วางคอนเซปต์และความหมายศัพท์เฉพาะทาง (Terminology) ของ "การตื่นตัวของศรัทธา" (Leap of FA.I.th) และมักได้รับการกล่าวขานว่าเป็นบิดาแห่ง Existentialism เขามักใช้นามปากกาว่า Vigilius Haufniensis (หรือ ยามเฝ้าท่าเรือ, Watchman of The Harbour) ซึ่งอาจเชื่อโยงกับชื่อเรือ(ยาน)ที่ในเดอะ เมทริกซ์ เขาเป็นกัปตัน (Vigilant ship)

Switch : ชื่อของ Switch อาจจะสื่อถึง Network Switch (อุปกรณ์ควบคุมระบบเนทเวิร์คอย่างหนึ่งทางคอมพิวเตอร์ มักจะทำงานคู่กับ Hub หรือ Router --ผู้เขียน) หรือช่องทาง Switches จำนวนมากที่ใช้ในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งชื่อนี้อาจเป็นเช่นเดียวกับชื่ออื่นๆในเดอะ เมทริกซ์ ที่ดึงมาจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เช่น Mouse และ Link ชื่อของ Switch ยังอาจจะหมายถึงเสื้อผ้าสีขาวที่เธอใส่อยู่เสมอ ('Switched' ที่สื่อว่าได้สลับจากคนปกติอื่นๆแล้ว ซึ่งคนปกติอื่นๆในกลุ่มมักจะใส่ชุดสีดำมากกว่าโดยปรกติ)

Tank : ลูกเรือคนสำคัญ Tank มีหน้าที่เป็นโอเปอเรเตอร์ หากจะอ้างอิงถึงความเกี่ยวข้องในทางศาสนาเช่นคาแร็กเตอร์อื่นๆในเรื่อง Tank ก็เปรียบได้กับ Tank of Water ที่ใช้ในการทำพิธีศีลจุ่มในโบสถ์เช่นทุกวันนี้ แทนที่จะทำพิธีในแม่น้ำเหมือนสมัยก่อน (Fw.mag)

Tank และ Dozer : อาจจะหมายถึง รถถัง (Military Tank) และรถแทรกเตอร์ (Bulldozer) ซึ่งเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ และอาจจะสื่อถึงความหมายของสิ่งที่หยุดไม่ได้

Thomas Anderson : ในคัมภีร์ไบเบิ้ล Thomas เป็นผู้ที่ไม่เชื่อว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์แล้วกลับฟื้นขึ้น จนเมื่อเขาได้เห็นแผลของพระองค์จึงเชื่อ เช่นเดียวกับ Thomas(หรือ Neo)ที่ไม่รู้สึกอะไรเมื่อถูกยิงจนกระทั่งเห็นแผลตัวเอง หลังจากที่เขาตายเพียงชั่วขณะ หลังจากนั้นเขาจึงเชื่อว่าเขาคือ The One คำว่า Anderson แยกออกเป็นสองคำได้ว่า Andr และ Son คำว่า Andr นั้นมาจากรากศัพท์ภาษากรีกที่ว่า Andros ซึ่งแปลว่ามนุษย์ ดังนั้นคำว่า Anderson ยังอาจหมายถึง บุตรของมนุษย์(พระเยซูถูกเรียกว่า " บุตรของมนุษย์ ") (Fw.mag)

Trinity : หากมอร์เฟียซเปรียบได้กับพระเจ้า และ นีโอเปรียบได้กับพระบุตร Trinity ก็เปรียบได้กับ Spirit หรือพระจิต อย่างชื่อที่เป็นสัญลักษณ์ของความเกี่ยวพันทั้งสาม(Holy Trinity)หรืออีกนัยหนึ่งเปรียบได้กับ Mary Magdaline (Fw.mag)

Trinity : Trinity เป็นคำของ Christian หมายถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งสามที่พระเจ้าประทานพร คือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต ซึ่งทั้งสามอย่างนี้อาจจะหมายถึงตัวละครหลักทั้งสามในเดอะเมทริกซ์คือ Neo, Trinity, และ Morpheus.

The Keymaker : โปรแกรมซึ่งถูกออกแบบให้สามารถ เข้า และออก โปรแกรมใดๆก็ได้ในเมทริกซ์ (หมายถึงสถานที่ใดก็ได้เมทริกซ์ นั่คือการสร้างกุญแจ (key or Password) ที่จะใช้งาน กุญแจได้ทุกกุญแจในโลก เมทริกซ์ –ผู้เขียน)

The Twins : เป็นโปรแกรมที่ถูกลบทิ้งจากระบบ Matrix มีหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้กับ Merovingian และยังคอยคุมขัง The Keymaker อันเป็นความหวังเดียวของมนุษย์ที่รักษากุญแจเข้าออกระบบ Matrix ด้วย

.........................................................................................


Ships
- หมวดยานเหาะ

Brahma : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Kali) Brahma หรือ พรหมา สื่อถึงชื่อเทพเจ้าซึ่งเ้ป็นพระผู้สร้างในศาสนาฮินดูและเป็นส่วนหนึ่งของตรีมูรติ ได้รับการขนานามว่า พระพรหม บรรยายไว้ในคัมภีร์ "พระเวท" ว่ามีสี่หน้า ( Vedas หรือพระเวท แปลได้ว่า "Knowledge (ความรู้)" หรือ "Truth (ความจริง)")

Caduceus : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Ballard - Bane's ship) ชื่อนี้มาจากไม้เท้าที่ถูกพันไว้ด้วยอสรพิษ ซึ่งเป็นของคู่กายเทพเจ้ากรีก Hermes (เฮอร์เมส หรือ เมอคิวรี่) อำนาจของมัน (Caduceus) คือทำให้มนุษย์ง่วงหลับ หรือปลุกให้ตื่นขึ้นก็ได้ (ซึ่งสอดค้องกับ ธีม "การตื่น" ที่มักจะเน้นย้ำใน The Matrix) โดยปัจจุบัน Caduceus เป็นตราสัญลักษณ์ของการพยาบาลและเภสัชกรรม

Gnosis : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Ice) คำ Gnosis (Γνώσις) น่าจะมาจากแนวคิด Gnosticism (ไญยนิยม) หรือคือการเน้นความรอด, ความรู้ทางจิตวิญญาณ, เทพเจ้า, เทววิทยา ซึ่งเชื่อว่าสัมพันธ์กับจักรวาล และสำคัญกว่าเรื่องทางสสาร

Icarus : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Ajax) Icarus (Ίκαρος) มีอยู่ในตำนานกรีกโบราณ เป็นชื่อของบุตรชายของ Daedalus (Δαίδαλου) ซึ่งเขาและพ่อได้หลบหนีออกจากการจองจำที่ Crete โดยผูกปีกที่ทำด้วยขี้ผึ้ง ติดไว้กับแขน แต่ Icarus เมินคำแนะนำของพ่อที่ว่าไม่ควรบินช้าไปใกล้ดวงอาทิจย์มาก จนทำให้ขึ้ผึ้งละลาย และเขาได้ตกลงไปในทะเลซึ่งต่อมาเรียกว่า Icarian และเสียชีวิตลง นอกจากนี้คำว่า "Icarus" ยังใช้ในวงการคอมพิวเตอร์หมายถึงโปรแกรมที่ล่มหรือทำงานขัดข้องบ่อยๆ

Logos : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Niobe) ในแนวปรัชญายุค Pre-Socratic คำว่า Logos (Λόγος) (การคิด, ถ้อยคำ, การคำนวณ, ตรรกะ --ผู้เขียน) เป็นแก่นสำคัญที่ครอบคลุมจักรวาลทั้งระบบ รวมทั้งการใช้เหตุผลของมนุษย์เกี่ยวกับจักรวาล ในศาสนายูดาย (JudA.I.sm) คือโลกของพระเจ้า และในศาสนาคริสต์ คือโลกแห่งการสรรค์สร้างของพระผู้เป้นเจ้า รวมทั้งการมีอยู่อย่างรูปพระธรรมของพระเยซูคริสต์ ใน "The New International Version Translation of The Bible" เล่มยอห์น 1:1 กล่าวไว้ว่า "In the beginning was the Word, and the Word was with God, and the Word was God." (ในปฐมกาล พระวาทะดำรงอยู่ และพระวาทะทรงสถิตอยู่กับพระเจ้า --พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทบฉบับ1971, ผู้เขียน) พระวาทะ (Word) ในที่นี้คือคำว่า "Logos" และมีการอ้างถึงพระเยซูคริสต์ โดยระบุว่าทรงเป็นพลังในการขับเคลื่อนจักรวาล

Mjolnir a.k.a. the Hammer : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Roland) - ยาน The Hammer มีชื่อที่แท้จริงคือ Mjolnir ซึ่งเป็นชื่อค้อนวิเศษของ เทพเจ้า Thor จากตำนานของชาวนอร์ส ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า "that which smashes (สิ่งนั้นทีทุบโครม!)" โดย Thor สามารถใช้ค้อนนี้สร้างสายฟ้าได้ด้วย แม้จะมีชื่อว่า Mjolnir แต่ในภาพยนต์มักจะใช้ว่า The Hammer มากกว่าซึ่งเป็นยานเดียวกัน

Nebuchadnezzar : ชื่อยานหนึ่งในสี่ลำที่บินอยู่รอบๆเมทริกซ์ ยานลำนี้เป็นของมอร์เฟียซ ในทางศาสนาชื่อนี้เป็นชื่อของกษัตริย์แห่งบาบิโลน ตำนานเล่าว่าพระองค์ทรงสุบินและต้องการให้โหรทำนาย แต่กลับจำความฝันนั้นไม่ได้ อย่างไรก็ตาม Daniel ซึ่งเป็นโหรก็ได้ทำนายให้ในที่สุด ต่อมาพระองค์ก็วิกลจริตและท่องไปในป่าอย่างเลื่อนลอย อีกความหมายหนึ่งในพจนานุกรมไบเบิ้ลกล่าวว่า Nebuchadnezzar หมายถึง Nebo ผู้ปกป้องมงกุฏ หรือ ที่มั่น Nebo นั้นเป็นพระเจ้าแห่งความรู้ของชาวบาบิโลน และในตอนที่หายจากอาการวิกลจริต ก็ได้เรียนรู้พลังของพระเจ้าและความดีงามทั้งปวง ดังนั้นก็น่าจะกล่าวได้ว่าหลังจากยาน Nebuchadnezzar ได้เวียนหาทางช่วยมนุษย์ที่เหลืออยู่อย่างไร้จุดหมาย การที่มอร์เฟียซ ได้พบ นีโอ ก็คล้ายกับว่าได้รับพลังของพระเจ้านั่นเอง (Fw.mag)

Nebuchadnezzar : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Morpheus) - Nebuchadnezzar (Ναβουχοδονόσορ) หมายถึงกษัตริย์บาลิโลพระองค์หนึ่ง จากคัมภีร์ไบเบิ้ลผู้ซึ่งเข้าโจมตีเยรูซาเล็ม (ตามพระประสงค์ของพระเจ้าที่พระเจ้าประสงค์เช่นนี้เพราะประชาชนของพระองค์(ในเยรูซาเล็ม) กำลังเข้าสู่ความโกลาหล เช่นการโกงคอรัปชั่น, การเหินห่างจากพระเจ้า, หมางเมินศาสดาพระยากรณ์ผู้ซึ่งติดต่อกับพระเจ้าและได้ส่งคำเตือนมา ซึ่งมีบันทึกไว้ชัดเจนในไบเบิ้ลว่ากษัตริย์ Nebuchadnezzar เป็นผู้ซึ่งได้เกิดฝันพยากรณ์หลายครั้ง ซึ่งเชื่อมโยงไปยังกัปตันของยาน Morpheus เทพเจ้าโรมัน (Greco-Roman) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความฝัน ในยานยังมีแผ่นป้ายสลักเขียนไว้ว่า Mark 3 No. 11ซึ่งหากอ้างอิงจากพระคำภีร์ฉบับ "the King James Bible" เล่ม มาระโก 3:11 กล่าวไว้ (โดยอ้างถึงพระเยซูคริสต์) "And unclean spirits, when they saw him, fell down before him, and cried, saying, Thou art the Son of God." (และผีโสโครกที่เข้าสิงอยู่ในคนหบายคน เมื่อได้เห็นพระองค์ก็ได้หมอบลงกราบพระองค์แล้วร้องอึงว่า "พระองค์ทรงเป้นพระบุตรของพระเจ้า" --พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทบฉบับ1971, ผู้เขียน)

Novalis : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Tirant) นามปากกานักเขียน(Novelist)และกวีแนวโรแมนติคชาวเยอรมัน Georg Philipp Friedrich Freiherr von Hardenberg. ซึ่งเคยเขียนไว้ว่า "Sleep is a digest of sensual impressions. Dreams are excrements." (การหลับคือการหยั่งถึงความพึงพอใจในราคะ ความฝันคือกองมูล(ของสิ่งนั้น))

Osiris : ใน Final Flight of Osiris (การ์ตูน The Animatrix) กัปตัน Thaddeus และ Jue มือขวาของเขาพยายามเตือนให้กลุ่มต่อต้านใน Zion ล่วงรู้ถึงแผนการของ A.I. ที่จะเข้าทำลายที่หลบซ่อนแห่งสุดท้ายของมนุษย์ ยาน Osiris จึงเปรียบได้กับผู้ที่เห็นความจริง Osiris เป็นเทพแห่งใต้โลกของชาวอียิปต์ มีตำนานเล่าว่าเขาถูกบรรดาพี่น้องทรยศ และลวงไปฆ่าลอยน้ำ ตอนที่เขาตายนั้นถูกหั่นเป็นชิ้นๆด้วย โดยชิ้นส่วนอวัยวะถูกโปรยตกไปตามเรือกสวนไร่นา ทำให้พืชไร่แถบนั้นงอกงาม ชาวอียิปต์จึงนับถือเขาราวกับเทพกสิกรรมอีกด้วย ในฐานะที่ให้กำเนิดชีวิตใหม่ (Fw.mag)

Osiris : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Thaddeus) จากภาพยนต์ The Animatrix ตอน Final Flight of the Osiris ชื่อ Osiris นี้มาจากเทพในตำนานอียิปต์ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความตายและโลกใต้พิภพ

Pequod : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Flint) "Pequod" คือชื่อเรือของ Ishmael จากบทประพันธ์ "Moby Dick".

Vigilant (บัญชาการโดย CaptA.I.n Soren) จาก the OED: แปลได้ว่า "ตื่นตัวและระแวดระวัง; ตื่นตัวจากภัยอันตราย; ใส่ใจกับการสังเกตการณ์" นอกจากนี้ชื่อ Søren Kirkegaard (ซึ่งน่าจะเป็นชื่อที่กัปตันของยานสื่อถึง) เป็นนามปากกาของ Vigilius Haufniensis (หมายถึง "ยามรักษาการณ์ของท่าเรือ") ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงชื่อของยาน

Witness : (บัญชาการโดย CaptA.I.n Axel) ยานซึ่งมี Turbine เป็นเจ้าของ แต่ผู้บัญชาการคือ Axel.

.........................................................................................


Locations - หมวดสถานที่ต่างๆ

Club Hel : (คลับเฮล)ถูกวางลักษณะไว้เหมือนโลกใต้พิภพของตำนานกรีกโบราณ (Κάτω Κόσμος), เล่นคำเปรียบเทียบ Hel/Hell ได้ในระบบความเชื่ออื่นๆ คลับมีการ์ดคุ้มกันเป็นชายหัวโล้นซึ่งสื่อความหมายถึง เซอบิรุส (Cerberus / Κέρβερος บางที่เรียก เคลเบรอส) สุนัขสามหัวที่คุ้มกันประตูนรกในตำนานกรีก ซึ่งสัมพันธ์กับชื่อ "Hel" ซึ่งแท้จริงมาจากชื่อของ สัตว์ประหลาดน่ากลัวที่เป็นอมนุษย์ ผู้เป็นลูกสาวของเทพ Loki จากตำนานของพวก นอร์ส (ซึ่งดูแลเขตอันหนาวเหน็บคล้ายนรกตามจินตนาการของชาวนอร์สโบราณ --ผู้เขียน) และมีความหมายในทางศาสนาคริสต์ซึ่งเป็นแหล่งของความชั่วร้ายเลวทราม คำนี้มีการใช้อีกครึ่งตอนการเผชิญหน้าในภาพยนต์ระหว่าง Trinity และคนอื่นๆ กับ Merovingian ซึ่งพูดขึ้นว่า "You fought through 'Hel' to get here"

Le VrA.I. Restaurant : ชื่อของภัตตาคาร "Le VrA.I." แปลอย่างหยาบๆจากภาษาฝรั่งเศสคือคำว่า "The Truth (ความจริง)" หรือ "The Real (ความเป็นจริง)"

Mobil Ave. : คำว่า Mobil เป็นอนาแกรมของคำว่า Limbo.(เป็นคำที่เขียนอยู่สถานีรถไฟ ที่นีโอไปติดค้างอยู่หลังจากหมดสติจากการใช้พลังแปลกประหลาดในการหยุดการโจมตีของ Sentinel --ผู้เขียน)

Zion : เมืองที่อยู่แห่งสุดท้ายของมนุษย์ ในบทเพลงสวด Psalms 48 จากพระคัมภีร์เก่าเขียนไว้ว่า " ผู้ยิ่งใหญ่คือพระเจ้า และนับเป็นความโชคดีที่เราได้พรคำสอนในเมืองแห่งพระเจ้าของเรา ในภูเขาที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ความปิติของโลกทั้งมวล คือเขาไซออน ทางตอนเหนือของเมือง เมืองของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นที่รู้กันว่าพระเจ้าจะรอให้ความช่วยเหลือต่อผู้ลี้ภัยมายังภูเขานั้น " (Fw.mag)

Zion : เป็นชื่อของภูเขาที่เยรูซาเลม ประเทศอิสราเอลที่ตั้งของวัดยิว "Solomon's Temple" ในหลายๆศาสนาที่นับถือกันบนโลกได้กล่าวว่าที่นี่คือสถานที่ซึ่ง "พระเจ้าได้ทรงเจิมแล้ว" และมีความศักดิ์สิทธิ์มาก

Zero One : นครแห่งแรกของฝ่ายเครื่องจักร มีมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อนจะเกิดสงครามระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร ชื่อ 01 (ซีโรวัน) มีการออกเสียงคล้ายคลึงกับ Zion (ไซออน) เช่นกัน โดยปกติ ซีโร่วันมีความหมายเกี่ยวกับ Binary Code (0,1) ซึ่งใช้ในทางคอมพิวเตอร์

.........................................................................................


Matrix Digits - หมวดตัวเลข

6 : ปลั๊กเสียบที่ท้ายทอยลึกหกนิ้ว(เชื่อหรือไม่) (Fw.mag)

101 : หมายเลขห้องของนีโอ, หมายเลขประจำตัว, และตำแหน่งของ Neo

303 : ห้องในคลับ Heart O'The City เป็นห้องที่ ทรินิตี้ ใช้เข้ามาในระบบ Matrix ตอนต้นเรื่อง และเป็นห้องที่ นีโอ ใช้หนีตอนท้ายเรื่อง (Fw.mag)

70858 : หมายเลขทะเบียนรถของพวกเอเย่นต์(อาจจะไม่เกี่ยวกัน แต่วันเกิดของ Kevin Bacon คือ 7/08/58) (Fw.mag)

AA034: เลขบนแท็กห้อยคอลูกยาน (Fw.mag)

2-19-98 13:24:18 : วันที่บนจอคอมพิวเตอร์ในฉากเปิด (Fw.mag)

9:18 : เวลาบนหน้าปัดนาฬิกาปลุกตอน Neo ตื่น (Fw.mag)

555-0690 : หมายเลขโทรศัพท์ในฉากเปิด (Fw.mag)

MARK III No.11 : ป้ายบนยาน Nebuchadnezzar(ตอนหนึ่งจากคัมภีร์ไบเบิ้ล MARK 3:11 กล่าวว่า " และเมื่อใดก็ตามที่วิญญาณไม่บริสุทธิ์พบเขา พวกเหล่านั้นจักทรุดลงเบื้องหน้าเขา และร้องว่า..ท่านเป็นบุตรของพระเจ้า..") (Fw.mag)

314 : เวลา(วินาที)ซึ่งนีโอสามารถอยู่ภายในเมนเฟรมเพื่อพบสถาปนิก,ผู้สร้างเมทริกซ์ และไขปริศนาไปสู่การยุติสงครามระหว่างมนุษย์กับแมชชีน นอกจากนี้ 3.14 คือค่าของไพ(22/7),เปลือกหุ้มสมองส่วนความคิด314, เว็บไซต์สำหรับเกมคอมพิวเตอร์ Commander Keen, ค่าเฉลี่ยในการหวดลูกเบสบอลทั้งชีวิตของ บิบบ์ ฟอล์ก ผู้เล่นตำแหน่งเอาท์ฟิลด์ของทีม ไวท์ ซอกซ์ (Fw.mag)

.........................................................................................


Robots - หมวดหุ่นยนต์

Sentinel : ฝ่ายจักรกลของ A.I. ที่มีหน้าที่กำจัดกลุ่มต่อต้าน และความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในระบบ MATRIX

Sentinel-Series : หมึกพิฆาต หรือที่เรียกกันว่า Squids ยานรูปร่างคล้ายปลาหมึกลำนี้มีหน้าที่ลาดตระเวน และป้องกันการบุกรุก มีระบบต้านแรงดึงดูดในการขับเคลื่อน มีระบบซ่อมแซมตัวเอง หากยานไม่ถูกโจมตีอย่างหนัก ระบบ Nano-Bots จะปรับปรุงระบบทั้งหมดของยานใหม่ ทางเดียวที่จะหยุดยานลำนี้ได้ต้องใช้คลื่น EMP หรือ Electromagnetic Pulse เพื่อตัดวงจรของยานปลาหมึก และระบบ Nano-Bots ในเวลาเดียวกัน
*สมรรถนะ : มีหนวดแปดเส้น, มีเกราะป้องกัน แต่ไม่สามารถป้องกัน EMP ได้, มีปืนเลเซ่อร์พลาสม่า, เป็นเครื่องยนต์ความเร็ว 80-3,000 ไมล์ต่อชั่งโมง, มีระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม, มีระบบเซ็นเซ่อร์พร้อมอินฟราเรด, ระบบทำลายตนเอง, หากเกิดความเสียหายเกินซ่อมแซมได้ (Fw.mag)

Orderlies : หรือ Docbots มีหน้าที่ดูแลฟาร์มมนุษย์ ยานลำนี้มีรูปร่างคล้ายแมงมุม และสามารถยื่นแขนกลออกมาจากด้านหน้าเพื่อใช้ยึดจับได้ด้วย ยาน Orderlies จะคอยดูแลยูนิตพลังงาน(อู่ที่ใส่มนุษย์) และป้องกันผู้บุกรุก
*สมรรถนะ : หน่วยปฏิบัติการของฟาร์มโคลน, ขาสี่ข้างจากบริเวณหัวสามารถยื่นออกมาเป็นอาวุธได้, เครื่องยนต์ความเร็ว 10-100 ไมล์ต่อชั่วโมง (Fw.mag)

Nurse : หรือหุ่น Beetles มีหน้าที่ดูแลฟาร์ม และเพาะพันธุ์มนุษย์รวมถึงการสร้างโคลนด้วย หุ่นตัวนี้จะทำหน้าที่ดูแลมนุษย์เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงาน
*สมรรถนะ : หน่วยปฏิบัติการของฟาร์มโคลน มีแขนกล 6 ข้าง (Fw.mag)

MA.I.ntenance Bots : เรียกว่าหุ่น Spiders ก็ได้ มีหน้าที่รักษาความสะอาดให้หุ่นตัวอื่น
*สมรรถนะ : หน่วยซ่อมบำรุงพ็อต มีหน้าที่ซ่อมแซมพ็อต คอมพิวเตอร์ และหุ่นอื่นๆ มีขาหกข้าง มักทำงานเป็นกลุ่มเพื่อซ่อมแซมสิ่งต่างๆ (Fw.mag)

Computers : หมวดคอมพิวเตอร์
มนุษย์ได้ขโมยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆจาก A.I. และนำมาใช้เป็นอาวุธ รวมทั้งเป็นอุปกรณ์เจาะระบบ MATRIX

Hovership Operations : แฮ็กเกอร์ใช้คอมพิวเตอร์ และแจ็คเพื่อเจาะระบบ Matrix โอเปอเรเตอร์จะอ่านรหัสบนหน้าจอ และใช้ข้อมูลเหล่านั้นเป็น Access ให้กับแฮ็กเกอร์ อุปกรณ์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ทั่วไปบนยานโฮเวอร์คราฟท์ทั้งสี่ลำ (Fw.mag)

Jump ChA.I.rs : เก้าอี้ที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงสัญญาณโดยใช้ Jack เสียบต่อเข้ากับปลั๊กหลังศีรษะ เพื่อเข้าสู่ระบบ Matrix (Fw.mag)


* เกร็ดเสริม : อันเกี่ยวข้องกับความหมายแฝงของการเล่นคำ-ประโยค

Christianity - เกี่ยวกับนัยยะศาสนาคริสต์

The Matrix Reloaded : ในหนังภาค 2 เราได้ทราบว่านี่เป็นเมทริกซ์เวอร์ชั่นที่หก ตามที่สถาปนิกกล่าว แต่รู้หรือไม่ว่าทำไมต้องเป็นเวอร์ชั่นที่หกด้วยที่จะต้องมี The One มาปลดปล่อย ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า Persephone กล่าวว่า " ตอนที่เรามาถึงที่นี่ครั้งแรก " นั่นหมายถึง มีความเป็นไปได้ว่ายังมีโลกอื่นๆ นอกจากเมทริกซ์เวอร์ชั่นที่หกอีก ตามคัมภีร์ของยิวนั้นเชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลกไว้หลายโลกด้วยกัน แต่ได้ทำลายโลกอื่นๆที่สร้างไว้เหลือเพียงโลกที่เราอาศัยอยู่เท่านั้น พระองค์ใช้เวลาสร้างโลกใน 7 วัน และในวันที่ 6 พระองค์ได้สร้างมนุษย์ชายหญิงคู่แรกขึ้น จึงน่าจะเป็นการสื่อว่าในเวอร์ชั่นที่หกของเมทริกซ์นี่เองที่มนุษย์ได้ตื่นขึ้น และปลดปล่อยตนเองเป็นอิสระ(นับจากวันที่ 7 พระเจ้าได้วางมือและพักผ่อนไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกอีก) (Fw.mag)

Neo : สถาปนิกยื่นข้อเสนอให้ Neo เลือกชาย 7 คน และ หญิง 16 คน เพื่อสร้างไซออนขึ้นใหม่ เป็นไอเดียที่นำมาจากบทเจเนซิส 7 : 16 จากคัมภีร์ไบเบิ้ลซึ่งกล่าวถึง โนอาห์ ที่ต้องลำเลียงสัตว์ขึ้นเรือก่อนที่พระเจ้าจะทำลายโลกด้วยการทำให้น้ำท่วม (อีกหนึ่งเหตุผลที่ฉากไคลแม็กซ์ของ Revolutions มีฝนตก)... Neo นั้นเปรียบเป็นพระมหาไถ่ตามพระคัมภีร์ ซึ่งก็ข้อสังเกตว่า ในภาคแรก Neo ถูกยิงและตายไปก่อนจะฟื้นขึ้นใหม่ หากจับเวลาตั้งแต่เอเย่นต์บราวน์จับชีพจร จะพบว่า Neo ตายไป 72 วินาที ในพระคัมภีร์กล่าวว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์ได้สามวันจึงฟื้นคืนชีพ เวลาสามวันนั้นเท่ากับ 72 ชั่วโมง..! (Fw.mag)

Buddhism - เกี่ยวกับนัยยะศาสนาพุทธ
ถึงหนังจะกล่าวถึงพระผู้มาโปรดตามอย่างคริสศาสนา แต่ไอเดียของหนังกลับเดินตามรอยพุทธศาสนามากกว่า หนังชี้ให้เห็นว่า โลกขอเราอยู่ภายใต้กฏแห่งไตรลักษณ์คือ อนิจจัง ทุกขัง และ อนัตตา มนุษย์ไม่มีวันหลุดพ้นได้หากยังเวียนว่ายอยู่ใน The Matrix มอร์เฟียซกล่าวไว้ว่า " As iong as the Matrix exist,the human race will never be free " นั่นเอง

Philosophy - เกี่ยวกับนัยยะปรัชญา
วลีอมตะของนักปรัชญา Descartes กล่าวว่า I think,therefore I am เป็นแนวคิดหลักอีกอย่างใน The Matrix ตัวละครทุกตัวล้วนไม่มีใครรู้ว่าตนเองมีตัวตนอยู่เพื่ออะไร คำตอบเดียวที่ทุกคนพูดก็คือ " เราอยู่เพื่อทำในสิ่งที่เราต้องทำเท่านั้น " อย่างที่ Oracle, Keymaker, Merovingian และแม้แต่ Agent Smith ต่างก็พูดถึงนัยยะในปรัชญานี้ทั้งสิ้น


Numerology
- เกี่ยวกับสัญลักษณ์
นอกจากสื่อทางภาพและบทพูดแล้ว หนังยังซ่อนสัญลักษณ์ต่างๆไว้มากมายผ่านตัวเลขที่ปรากฏในเรื่องด้วย อีกทั้งนำตัวเลขต่างๆ มาใช้บอกใบ้อะไรหลายอย่าง
Smith : เอเย่นต์สมิธมีป้ายทะเบียนรถหมายเลข IS 5416 ซึ่งในพระคัมภีร์บท IsA.I.ah 54 : 16 เขียนไว้ว่า
Behold, I have created the smith จงประจักษ์, เราได้สร้างสมิธ(แปลว่าช่างตีเหล็กก็ได้)
Who blows the coals in fire, ผู้เติมถ่านเป็นเชื้อไฟ
Who brings forth an instrument for his work, เพื่อตีเหล็กเป็นเครื่องมือ
And I have created the spoiler to destroy และเราต้องสร้างผู้ขัดขวางและทำลาย (Fw.mag)

B166ER : ใน AniMatrix มีหุ่นตัวแรกที่ " คิดได้ " และถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีฐานฆ่าคนตาย ทั้งยังไม่ได้รับความยุติธรรมในฐานะที่เป็นเพียงหุ่นยนต์อีกด้วย พี่น้อง Wachowski นำแนวคิดนี้มาจากหนังสือเรื่อง Native Son ในปี 1940 พูดถึง Bigger Thomas ทาสผิวดำที่ทำงานกับครอบครัวคนผิวขาว และเกิดอุบัติเหตุที่เขาทำให้บุตรสาวเจ้าของบ้านเสียชีวิต รหัส B166ER ก็อ่านได้คล้ายกับคำว่า BIGGER เช่นกัน (Fw.mag)

Password : ความลับบางอย่างของหนังอาจถูกซุกซ่อนอยู่ในเลขรหัสของคอมพิวเตอร์ควบคุมสถานีไฟฟ้าก็เป็นได้ ใน Reloaded รหัสที่ Trinity ป้อนเพื่อเจาะข้อมูลเขียนว่า ZION0101 (Fw.mag)


Japanese Animation
- เกี่ยวกับอิทธิพลจาการ์ตูนญี่ปุ่น
Animatrix ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่า The Matrix ได้รับอิทธิพลจากการ์ตูนญี่ปุ่นมากแค่ไหน แต่ยังแสดงถึงความชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นในตัวผู้กำกับด้วย ที่สำคัญพล็อตของหนังสือนี้ยังนำมาจากการ์ตูนชั้นยอดของญี่ปุ่นอีกด้วยคือ Ghost in the Shell ของ Oshii Mamoru การ์ตูนในปี 1995 เรื่องนี้พูดถึงโลกในอนาคตที่มนุษย์ต่างอยู่ในโลกจำลองเหมือนจริง และสามารถดาว์นโหลดพลังเหนือธรรมชาติได้โดยมีคอมพิวเตอร์เป็นตัวควบคุม ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งวันหนึ่งเอเย่นต์ของหน่วยควบคุมได้ค้นพบว่า พวกเขาถูกจองจำอยู่ในเครื่องสร้างภาวะจำลองมาโดยตลอด นอกจากนี้ผู้กำกับ Wachowski ยังยอมรับด้วยว่าฉากที่ Neo พบกับเด็กผู้มีพรสวรรค์ในอพาร์ตเม้นต์ของเทพพยากรณ์นั้นได้ไอเดียมาจากฉากจบ ของอนิเมชั่นเรื่อง AKIRA ปี 1988


Alice in Wonderland
- เกี่ยวกับนวนิยายอลิซในดินแดนมหัศจรรย์
ในเนื้อหาของ เดอะ เมทริกซ์ ภาคแรกมีการเล่นล้อเนื้อหาของวรรณกรรมเยาวชน เรื่อง Alice in Wonderland (อลิซ ในแดนมหรรซจรรย์) ซึ่งอาจจะเป็นความชอบของสองพี่น้อง Wachowski ผู้สร้างภาพยนต์ และยังวสื่อได้ถึงความหมายของการพาเราจากโลกปกติเข้าสู่โลกที่พิศดาร แปลกประหลาด ซึ่งจากในภาพยนต์มีการเล่นตรงนี้แต่แรก เช่น นีโอที่กำลังนอนหลับฝัน และตื่นขึ้นมาอย่างที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังฝันอยู่หรือไม่แบบอลิซ การติดตามกระต่ายสีขาวไป จนกระทั่งได้พบกับมอเฟียซซึ่งถามความรู้สึกนีโอว่า คุณกำลังรู้สึกเหมือนตกลงมาในรูกระต่ายใช่หรือไม่ (Do you feel like tumbling down the rabbit hole?) ในแบบเดียวกับที่อลิซตกลงไปในอุโมงค์ยาวและพิศดารแปลกประหลาดจนไปถึงประตูทางเข้า Wonderland นอกจากนี้ยังมีการล้อเล่นกับวรรณกรรมอื่นที่ขัดขึ้นมาโดยไซเฟอร์ คือตอนหลังจากที่นีโอกินยาเม็ดสีแดงแล้ว ไซเฟอร์กลับบอกว่า รัดเขมขัดให้แน่นและบอกลาแคนซัสได้เลย ซึ่งล้อเลียนมาจากเรื่อง The Wizard of Oz ในตอนที่โดโรทีถูกพายุพัดหายไปอยู่ในแดนมหัศจรรย์แห่ง Oz ซึ่งขัดกับเนื้อเรื่องช่วงแรกที่เป็น Alice in wonderland ซึ่งอาจสื่อให้เห็นมุมมองที่ขัดแย่งของไซเฟอร์ต่อลูกเรือคนอื่นๆอยู่ลึกๆด้วยที่สุดท้ายแล้วไซเฟอร์ก็กลายเป็นผู้ทรยศ อนึ่งการใช้สำนวน The Rabbit Hole อาจเป็นการล้อ Zion หรือเป็นการแฝงนัยของคำเชื้อเชิญให้ไปสู่ Zion เนื่อจากต้องลงไปในอุโมงที่ลึกมากแบบเดียวกับก่อนที่จะไปถึง Wonderland